[คิดแบบแอดมิน] ร่ม นวัตกรรมพันปี กับแดดยามบ่ายไออุ่นจากอเวจี
ช่วงนี้ไม่ว่าจะไปไหน เห็นมีแต่คนบ่นเรื่องสภาพอากาศ ที่มันร้อนเกินจะทน บางวัน 40 องศา ผ้ายังสีซีด แสงแดดที่เดินทางด้วยความเร็ว 3*10^8 m/s ทำให้ผิวของแอดมินเกือบสลายกลายเป็นไอ ดั่งสืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์ผีดิบมาเลยทีเดียว (อันนี้ก็เว่อร์)
เคยคิดบ้างไหมว่าถ้ามีเครื่องกันแดด ที่ใช้งานง่าย สะดวก มาขาย มันจะขายดีแค่ไหน ? แอดมินคิดว่ามันน่าจะพลิกประวัติศาสตร์นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มากกว่า iPhone ซะด้วยซ้ำ
รู้ไหมสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์ใช้กันแดดมาตั้งแต่สมัยยุคเมโสโปเตเมีย หรือราวสามพันกว่าปีก่อน มันก็คือ ... ใช่แล้วมันคือ "ร่ม" วัตถุที่ใช้บังแดดกันฝน มีด้ามจับ รูปร่างคล้ายร่ม (เออไม่คล้ายร่ม มันจะคล้ายอะไรล่ะ) เอาเป็นว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักร่มแล้วกันเนาะ
ถามว่าผ่านมาสามพันกว่าปี ยุคที่คนไปดวงจันทร์กันเป็นว่าเล่น ยุคที่เราเดินทางรอบโลกได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน ทำไมร่มก็ยังเป็นร่มอยู่ ทำไมเรายังต้องถือขณะใช้งาน ทำไมมันถึงกันฝนได้ แต่เท้าก็ยังเปียกอยู่ดี ไม่มีใครคิดที่จะทำอะไรให้มันดีกว่าร่มแล้วหรือ ?
ลองคิดๆดู สิ่งที่เราไม่อาจก้าวข้ามมันได้ ไม่ใช่วัสดุ หรืออุปกรณ์ในการสร้าง แต่มันคือ เราไม่สามารถกรองแสงหรือแม้กระทั่งฝนได้ โดยปราศจาก "ตัวกรอง" ถ้าเราไม่มีตัวกรองแสง เราจะกันแสงได้ไหม ?
เอาล่ะในกรณีของฝน แอดมินเคยเห็นสิ่งประดิษฐ์นึง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีตัวกรอง แต่ใช้แรงลมในการเป่าฝนออกไปด้านข้างแทน แน่นอนว่าเราก็จะไม่เปียก ต้องยอมรับว่ามันเจ๋งจริง แต่วันนี้เราจะพูดกันถึง ร่มกับความร้อนของสยามประเทศ
เราจะทำยังไงให้แสงไม่โดนตัวเรา หรือ ลดอุณหภูมิของแสงก่อนโดนตัวเรา ทั้งนี้จะต้องอยู่ในกรอบของการไม่ใช้ตัวกรอง หรือถ้าจะใช้ตัวกรอง เราต้องไม่ถือ เพราะถ้าถือมันก็คือร่ม และต้องไม่สวมที่หัว เพราะมันก็จะเป็นหมวก ฮ่าๆๆๆ น่าตื่นเต้นแฮะ
เท่าที่คิดออกตอนนี้คงจะมีแต่ เมฆสีทองของ ซุนหงอคง แล้วล่ะ ใช่แล้ว เอาโดรนมาเป็นที่กันแดด เราเดินไปไหนมันก็จะอยู่บนหัวเรา เป็นความคิดที่มีบั๊คเยอะไปหน่อย แต่ก็นะ ฮ่าๆๆ
ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ ไม่ได้มีไอเดียบรรเจิดจะมานำเสนอหรอก แค่อยากเล่าสิ่งที่แอดมินคิดให้ฟัง จริงๆแล้วร่มมันก็อาจเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วก็ได้
เพียงแต่คิดว่าถ้าเราควบคุมแสงจากดวงอาทิตย์ได้ คงมีประโยชน์มิใช่น้อย เราอาจจะเก็บแสงไว้ใช้ตากผ้าตอนหน้าฝน ไรเงี๊ย มันอาจจะฟังดูเพ้อเจ้อ หลุดไปจากกฎทางฟิสิกส์ แต่คุณสมบัติของแสงที่เราเคยเรียนมาอาจไม่ใช่ทั้งหมดของจักวาล และแน่นอนจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ (จบแบบหล่อๆ)
สุดท้าย ถ้าเพื่อนๆมีไอเดียไรสามารถคอมเม้นได้ที่ด้านล่าง ถ้าชอบก็กดไลก์เป็นกำลังใจ แล้วจะมาเขียนอีกบ่อยๆ วันนี้ช่วงคิดแบบแอดมินขอลาไปก่อน คริคริ
เคยคิดบ้างไหมว่าถ้ามีเครื่องกันแดด ที่ใช้งานง่าย สะดวก มาขาย มันจะขายดีแค่ไหน ? แอดมินคิดว่ามันน่าจะพลิกประวัติศาสตร์นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มากกว่า iPhone ซะด้วยซ้ำ
รู้ไหมสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์ใช้กันแดดมาตั้งแต่สมัยยุคเมโสโปเตเมีย หรือราวสามพันกว่าปีก่อน มันก็คือ ... ใช่แล้วมันคือ "ร่ม" วัตถุที่ใช้บังแดดกันฝน มีด้ามจับ รูปร่างคล้ายร่ม (เออไม่คล้ายร่ม มันจะคล้ายอะไรล่ะ) เอาเป็นว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักร่มแล้วกันเนาะ
 |
| โครงสร้างส่วนต่างๆของร่ม |
ถามว่าผ่านมาสามพันกว่าปี ยุคที่คนไปดวงจันทร์กันเป็นว่าเล่น ยุคที่เราเดินทางรอบโลกได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน ทำไมร่มก็ยังเป็นร่มอยู่ ทำไมเรายังต้องถือขณะใช้งาน ทำไมมันถึงกันฝนได้ แต่เท้าก็ยังเปียกอยู่ดี ไม่มีใครคิดที่จะทำอะไรให้มันดีกว่าร่มแล้วหรือ ?
ลองคิดๆดู สิ่งที่เราไม่อาจก้าวข้ามมันได้ ไม่ใช่วัสดุ หรืออุปกรณ์ในการสร้าง แต่มันคือ เราไม่สามารถกรองแสงหรือแม้กระทั่งฝนได้ โดยปราศจาก "ตัวกรอง" ถ้าเราไม่มีตัวกรองแสง เราจะกันแสงได้ไหม ?
เอาล่ะในกรณีของฝน แอดมินเคยเห็นสิ่งประดิษฐ์นึง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีตัวกรอง แต่ใช้แรงลมในการเป่าฝนออกไปด้านข้างแทน แน่นอนว่าเราก็จะไม่เปียก ต้องยอมรับว่ามันเจ๋งจริง แต่วันนี้เราจะพูดกันถึง ร่มกับความร้อนของสยามประเทศ
เราจะทำยังไงให้แสงไม่โดนตัวเรา หรือ ลดอุณหภูมิของแสงก่อนโดนตัวเรา ทั้งนี้จะต้องอยู่ในกรอบของการไม่ใช้ตัวกรอง หรือถ้าจะใช้ตัวกรอง เราต้องไม่ถือ เพราะถ้าถือมันก็คือร่ม และต้องไม่สวมที่หัว เพราะมันก็จะเป็นหมวก ฮ่าๆๆๆ น่าตื่นเต้นแฮะ
เท่าที่คิดออกตอนนี้คงจะมีแต่ เมฆสีทองของ ซุนหงอคง แล้วล่ะ ใช่แล้ว เอาโดรนมาเป็นที่กันแดด เราเดินไปไหนมันก็จะอยู่บนหัวเรา เป็นความคิดที่มีบั๊คเยอะไปหน่อย แต่ก็นะ ฮ่าๆๆ
ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ ไม่ได้มีไอเดียบรรเจิดจะมานำเสนอหรอก แค่อยากเล่าสิ่งที่แอดมินคิดให้ฟัง จริงๆแล้วร่มมันก็อาจเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วก็ได้
เพียงแต่คิดว่าถ้าเราควบคุมแสงจากดวงอาทิตย์ได้ คงมีประโยชน์มิใช่น้อย เราอาจจะเก็บแสงไว้ใช้ตากผ้าตอนหน้าฝน ไรเงี๊ย มันอาจจะฟังดูเพ้อเจ้อ หลุดไปจากกฎทางฟิสิกส์ แต่คุณสมบัติของแสงที่เราเคยเรียนมาอาจไม่ใช่ทั้งหมดของจักวาล และแน่นอนจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ (จบแบบหล่อๆ)
สุดท้าย ถ้าเพื่อนๆมีไอเดียไรสามารถคอมเม้นได้ที่ด้านล่าง ถ้าชอบก็กดไลก์เป็นกำลังใจ แล้วจะมาเขียนอีกบ่อยๆ วันนี้ช่วงคิดแบบแอดมินขอลาไปก่อน คริคริ
